ค่าของสปริงคือค่าที่แสดงของแรงบีบอัดสปริงที่ได้กำหนดระยะไว้อาจมีหน่วยเป็น kg/mm, kg/cm, lbs/in หรือ N/mm
คำถามที่พบบ่อย
- ค่าของสปริงคืออะไร?
- ATGATT คืออะไร?
ATGATT(All the gear,all the time) หมายถึงชุดป้องกันที่ผู้ขับขี่สวมใส่ หากผู้ขับขี่สวมใส่ครบเซ็ทนั่นหมายถึงน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น เราแนะนำให้ผู้ขับขี่สวมใส่เพื่อความปลอดภัย และการเซ็ทรถต้องให้ผู้ขับขี่สวมใส่เท่าที่ผู้ขับขี่ใช้งาน
- ค่า SAG ของผู้ขับขี่คือเท่าไร?
ค่า SAG ของผู้ขับขี่ที่เหมาะสมได้มาจากการที่เราวัดระยะและปรับตั้งจากค่าคงที่ของรถตามความเหมาะสมของรถประเภทนั้นๆ
- คุณขับขี่บนสถานที่แบบไหน? เช่น บนนถนน สนามแข่ง ดินโคลน ผจญภัย
ขึ้นอยู่กับการขับขี่แบบไหน ประเภทของโช๊คก็อาจจะแตกต่างกันออกไป
- คุณมีผู้ขับขี่ไปกับคุณมากกว่า 50% ของเวลาที่คุณใช้รถหรือไม่
กรณีเป็นรถทั่วไปที่ไม่ได้ลงสนามแข่งคงจะต้องมีผู้โดยสาร และหากต้องบรรทุกผู้โดยสารตลอดเราต้องเซ็ทเผื่อไว้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
- คุณมีสัมภาระรวมทั้งกระเป๋าอาน กระเป๋าติดถังและกระเป๋าสะพายหลังหรือไม่
สัมภาระและกระเป๋าควรติดตั้งอย่างถูกต้องแข็งแรงและเราต้องเซ็ทเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นกัน
- คุณใช่ชุดโซ่ขนาดเท่าไร
ชุดโซ่เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ไม่ควรเพิ่มหรือลดขนาดอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในงานใช้งานลดลงและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- คุณขับขี่ในเมืองหรือทางหลวงเป็นส่วนใหญ่
ต้องเซ็ทให้เหมาะสม ผู้ขับขี่ในเมืองอาจจะพบเจอหลุม บ่อ ฝาท่อและพื้นต่างระดับมากมายต่างกับผู้ขับขีที่ใช้ทางหลวงเป็นหลักเราจะต้องคำนึงถึงส่วนนี้ด้วย
- คุณได้ปรับความตึงหย่อนโซ่ได้อย่างถูกต้องหรือไม่
การปรับตั้งโซ่เป็นสิ่งสำคัญควรเช็คทุกครั้งก่อนออกทริป หากตึงหรือหย่อนเกินไปประสิทธิภาพของรถก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- คุณได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นกับชุดโซ่ของคุณล่าสุดเมื่อไร
การที่ชุดโซ่สะอาดและหล่อลื่นตลอดเวลาจะทำให้เราขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและชุดโซ่ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- คุณคิดว่าคุณควบคุมรถหรือว่ารถควบคุมคุณอยู่
หากว่าคุณถูกรถควบคุมอยู่ หมายถึงขับขี่ไม่เป็นไปอย่างใจสั่ง เลี้ยวยากหรือสั่นเกินไป นั่นแสดงว่ารถของคุณกำลังผิดปกติ ซึ่งสาเหตุหลักๆแล้วล้วนมากจากช่วงล่างที่ส่งผลมายังผู้ขับขี่โดยตรง
- คุณสามารถนำโช๊คหน้ามาซ่อมบำรุงได้และคุณทราบหรือไม่ว่าเมื่อไรถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันโช๊คหน้า
โช๊คที่เสียหายเช่นมีน้ำมันซึมออกมาหรือว่ามีรอยแตกหักที่ชุดซีลยางหรือสปริงนั้น ต้องซ่อมแซมแก้ไขโดยเร็วที่สุดและน้ำมันโช๊คหน้าควรจะเปลี่ยนทุกๆ2ปี
- คุณสามารถบังคับรถให้เลี้ยวได้ดั่งใจหรือว่าตอนเลี้ยวคุณรู้สึกว่ารถฝืนคุณอยู่หรือไม่
การหักเลี้ยวก็เป็นส่วนสำคัญ หากรถของคุณหักเลี้ยวยากหมายถึงรถของคุณกำลังมีปัญหาอยู่ ซึ่งหลักๆแล้วล้วนมากจากช่วงล่างที่ส่งผลมายังผู้ขับขี่โดยตรง
- คุณได้เปลี่ยนสปริงโช๊คหน้าของคุณให้เหมาะสมกับคุณแล้วหรือไม่
หากรู้สึกว่าโช๊คหน้าของคุณแข็งไปหรืออ่อนยวบไปนั่นหมายถึงสปริงนั้นไม่เหมาะสำกับน้ำหนักของผู้ขับขี่ การเลือกสปริงที่เหมาะสมจะทำให้รถขับขี่ได้อย่างนิ่มนวลและมีประสิทธิภาพ
- รู้หรือไม่ว่าน้ำมันโช๊คหน้าต้องเปลี่ยนทุกๆ2ปี
อายุการใช้งานของน้ำมันโช๊คนั้นมีอายุ2ปีโดยประมาณ ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนตลอดเพราะน้ำมันที่ผ่านการใช้งานมาแล้วอาจมีสิ่งสกปรกมากมายเข้าไปผสมอยู่เนื่องจากการขับขี่ นั่นหมายถึงประสิทธิภาพของโช๊คก็จะลดลงและลดลงไปเรื่อยๆ